บรรณาธิการตอบว่า: อาจเป็นปัญหาของปากกาทดสอบหรือไม่?

มีสามวิธีในการระบุว่าเลนส์ปิดกั้นแสงสีน้ำเงินมีหน้าที่ปิดกั้นแสงสีน้ำเงินหรือไม่:

(1) วิธีทดสอบสเปกโตรโฟโตมิเตอร์วิธีการนี้เป็นวิธีการทางห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์มีราคาแพง หนัก พกพาไม่สะดวก แต่ข้อมูลมีความถูกต้องเพียงพอในเชิงปริมาณร้านค้าปลีกทั่วไปไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ แต่อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้เครื่องวัดแสงสีฟ้าแบบพกพาที่ผลิตโดย Shenyang Shangshan Medical Instrument Co., LTD. ซึ่งสามารถวัดการส่งผ่านของแสงยูวีและแสงสีน้ำเงินได้วิธีนี้เป็นการทดสอบค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักความยาวคลื่นแบบหลายจุด ซึ่งสามารถวัดค่าแสงสีน้ำเงินที่รวมกันได้ แต่ไม่มีค่าการทดสอบที่แบ่งความยาวคลื่น

(2) ทดสอบด้วยปากกาป้องกันแสงสีน้ำเงินในท้องตลาดวิธีนี้มีค่าใช้จ่ายต่ำ การทดสอบที่สะดวก และสามารถใช้กับจอแสดงผลของเทอร์มินัลได้ แต่มีปัญหาสามประการต่อไปนี้ ประการแรก แสงสีน้ำเงินที่ปล่อยออกมาจากปากกาแสงสีน้ำเงินในตลาดอยู่ที่ประมาณ 405 นาโนเมตร และแบนด์วิดท์อยู่ที่ประมาณ 10 นาโนเมตรแสงสีน้ำเงินม่วง.แหล่งกำเนิดแสงความยาวคลื่นนี้หาง่ายกว่าแหล่งกำเนิดแสงสีน้ำเงินที่มีความยาวคลื่นกลาง 430 นาโนเมตรต้องใช้ฟิลเตอร์ที่ค่อนข้างพิเศษ และราคาของปากกาก็จะสูงขึ้นประการที่สอง การทดสอบความยาวคลื่นแบบจุดเดียวไม่เพียงพอสำหรับเราประการที่สาม เราควรมุ่งเน้นไปที่การส่งผ่านเฉพาะของแต่ละจุดความยาวคลื่น แทนที่จะเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพโดยสรุป การใช้วิธีปากกาแสงสีน้ำเงินเป็นทางเลือกสุดท้าย คุณสามารถเลือกอ้างอิงได้

(3) ใช้คำชี้แจงตนเองขององค์กรณ จุดนี้ เราควรเชื่อในพลังของแบรนด์และเชื่อว่าผู้ผลิตเลนส์ส่วนใหญ่จะไม่โกงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของตนสำหรับผู้บริโภค เราสามารถใช้แนวคิดเดียวกันได้ เช่น เราพูดกับลูกค้าว่า "แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ต่างประเทศ (ในประเทศ) ที่มีชื่อเสียง เราขายมานาน ชื่อเสียงของผู้ใช้ดี คุณสามารถวางใจได้ นี่คือรายงานการทดสอบผลิตภัณฑ์ที่จัดทำโดยเจ้าของแบรนด์ ซึ่งออกโดยหน่วยงานระดับชาติ จะไม่มีปัญหา"
สำหรับคำถามที่สอง คำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้วเหตุผลที่ปากกาวัดแสงสีน้ำเงินจากผู้ผลิตหลายรายให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันในการทดสอบเลนส์เดียวกัน เนื่องจากปากกาวัดแสงสีน้ำเงินแต่ละรุ่นมีช่วงสเปกตรัมที่แตกต่างกันเฉพาะปากกาวัดแสงสีน้ำเงินที่มี 435±20 นาโนเมตรเท่านั้นที่สามารถทดสอบประสิทธิภาพของเลนส์ป้องกันแสงสีน้ำเงินได้